PlayListนี้ เริ่มต้นด้วย "เล่าเรื่อง ตาดูดาวเท้าติดดิน" เรียงลำดับตั้งแต่ ตอนแรก ถึง ตอนปัจจุบัน ..ท้ายเพลย์ลิสท์เป็นคลิป "เมื่อศาลรัฐธรรมนูญกระทำขัดรัฐธรรมนูญ : จะทำอย่างไร?" วันพุธที่ 1 พฤษภาคม 2556 เวลา 13.00 - 16.00 น. ห้องกมลทิพย์ ชั้น 2 โรงแรมสุโกศล (สยามซิตี้เดิม) คลิปนี้..วิทยากร รศ.ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงความคิดเห็นเริ่มนาที 0:14:24
คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...
หรือคลิกที่นี่.. @ AsiaUpdate "เล่าเรื่อง ตาดูดาวเท้าติดดิน"

คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...

คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...

วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555

93 "เป็นเรื่องโชคดีที่แพ้ก่อน" : ดร.สุนัย วิเคราะห์การพ่ายแพ้ที่ปทุมฯ

@ 4 ข้อเสนอนิติราษฎร์ "ลบล้างผลพวงรัฐประหาร 19 กันยา"
@ "วรเจตน์" ฝ่าศึกสหบาทา: ร้องว่าผมเนรคุณ แต่คุณยืนให้สูงเพื่อบอกว่าจงรักภักดี โดยเหยียบหัวผมขึ้นไป
@ เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00
@ เข้าครัว...ทำกับข้าวคลายเครียด!! ผมทำได้ คุณก็ทำได้ครับ
@ 54... "นายกฯปู" สวมชุดนักบินเหินฟ้าชมการใช้กำลังทางอากาศ
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือนกองทัพไทย
@ ภาพชุดงานสโมสรสันนิบาต วันเฉลิมพระชนมพรรษา 5ธ.ค.2554
@ 81 ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร...‘ดรัมเมเยอร์-ไทยแลนด์แบนด์’
@ สถานีรถไฟจีน แล้วลองย้อนมาดูเรา...
@ เรื่อง... ม.๑๑๒ ม.112 ม.๑๑๒ ม.112 ม.๑๑๒ ม.112
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน บรูไน, อินโดนีเซีย, กัมพูชา, ลาว, เมียนมาร์ ชุดที่1
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน เวียดนาม ชุดที่2
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน สิงคโปร์ ชุดที่3
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน อินเดีย ชุดที่4
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน ฟิลิปปินส์ ชุดที่5
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์ร่วมประชุมที่สวิสเซอร์แลนด์ ชุดที่6
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน มาเลเซีย ชุดที่7
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน ญี่ปุ่น ชุดที่8
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน เกาหลีใต้ ชุดที่9
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน จีน ชุดที่10
@ 82 ต้องรู้..ต้องรู้...ภาระหน้าที่"เมษายน"ทุกๆปี นะจ๊ะ!!
@ 55... มาร์คครับ หยุดใช้วาทกรรมแก้รัฐธรรมนูญทำให้สังคมเกิดความขัดแย้งเลยครับ
@ สุดยอดไปเล้ย ก้อคุณพี่ทิศใต้นะสิคะ บอกไม่กลับบ้านก็ได้ทุกวันนี้สบายดี
@ 11 "ปู"พา"ไปป์"ไปญี่ปุ่นด้วย ให้พี่เลี้ยงพาเที่ยวแทน
@ 84 คุณชวนนท์ครับ ออกมาดูโลกภายนอกบ้างเถอะครับ
@ 12 เคยเห็นมั้ย!! แมงสาปดิ้นใน"บ้านทรายทอง"กรุงโตเกียวญี่ปุ่นโน่น...
@ 80 สังคมไทยป่วย หรือเป็นผลผลิตจากการโฆษณาชวนเชื่อมาอย่างยาวนาน
@ นิก นอสติทซ์ "ผมมาทำตามหน้าที่ของความเป็นมนุษย์"
@ อาข่า...พาไปชมตลาด...มาดูว่าข้าวของไม่ได้แพงอย่างสลิ่มว่านะ
@ ยาจีนโบราณ ไข่ไก่ดิบดองน้ำส้มสายชูหมัก กินแล้วหายหลายโรค
@ ตอแหล ตลบตะแลง กวนตีน สิ่งที่ไอ้ฟักและพรรคของมันคิดว่าเท่เหลือเกินในสภา
@ ลูกเล่นใหม่ GoogleMap ดูได้รอบทิศทาง360องศาหน้าบ้านตัวเอง-คนอื่น
@ แม่ค้ารุมกรี๊ด! ภาพนายกฯปู กินก๋วยเตี๋ยว-เดินตลาดนางเลิ้ง
@ "ไหว้พี่เค้าสิ"....วลีนี้บาดลึกและสะเทือนไกลไปถึงไหน
@ ไป ตรัง มา มีเรื่องมาเล่าให้ฟังนิดหน่อยไป ตรัง มา มีเรื่องมาเล่าให้ฟังนิดหน่อย
@ คลิปและภาพนายกฯปูเล่นสงกรานต์ที่เชียงใหม่
@ คลิปนายกฯทักษิณร้องเพลงเวทีคนเสื้อแดงที่กัมพูชา
@ เปิดตัว "เอ็มแรป" โมเดล! สุดคุ้มขึ้นค่าแรง 300 บาทบริษัทโชว์กำไรพุ่ง
@ ขอยืนยัน ข้าวแกงจานละ 100 บาท หรือกว่า ร้อยบาท มีจริง แพงจริง...
@ เหอ เหอ... พณฯท่าน ส.ส.ผู้ทรงเกียรติในสภาฯ
@ ผู้ที่มี "วิสัยทัศน์" นั้น ย่อมต่างจากคนที่ยังครอบหัวกบาลตัวเอง ด้วย "กะลาทัศน์"...
@ ผมเห็นรัฐบาลกำลังทำอะไรที่ไร้แก่นสารแบบนี้แล้ว รู้สึกเหมือนถอยหลังไปอีกสิบปี
@ ถ้าวันนั้น...วันที่ประเทศไทยเศรษฐกิจล่มสลายไปเรียบร้อย ถ้าไม่มีชายชื่อทักษิณ ชินวัตร วันนี้ประเทศไทยจะเป็นยังไง???

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ โหลดเก็บไว้ในcomเชิญคลิกที่นี่...

"เป็นเรื่องโชคดีที่แพ้ก่อน" : ดร.สุนัย วิเคราะห์การพ่ายแพ้ที่ปทุมฯ
Credit: thaienews.blogspot.com
By: ส.ส. ดร.สุนัย จุลพงศธร

การแพ้การเลือกตั้งของผู้สมัคร ส.ส.และนายกฯอบจ.ที่สังกัดพรรคเพื่อไทยในจังหวัดปทุมธานีเป็นเหตุการณ์สำคัญ ที่จะยกระดับการเรียนรู้ถึงพัฒนาการทางการเมืองไทยของ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย

และยกระดับการเรียนรู้ของขบวนการคนเสื้อแดงว่าการเมืองไทยได้เกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว และการเมืองไทยได้เข้าสู่กระบวนการแห่งเนื้อหาของประชาธิปไตยแล้วที่จะต้องเอาประชาชนเป็นที่ตั้งและจะต้องนับถือประชาชนเป็นพระเจ้าที่เดินดินแทนพระเจ้าที่อยู่บนฟ้า

ผมจึงขอนำเหตุการณ์นี้เป็นกรณีศึกษา (Case Study) และขอบอกกับเพื่อนๆว่า "เป็นเรื่องโชคดีที่แพ้ก่อน" และสิ่งนี้คือความล้ำเลิศของระบอบประชาธิปไตยโดยมีข้อสังเกตดังนี้

1. ต้องยอมรับการตัดสินใจของพี่น้องปทุมธานี

ก่อนอื่นต้องยอมรับการตัดสินใจของพี่น้องชาวปทุมธานีก่อนว่าเขาพึงพอใจเช่นนั้นอย่าใช้ทัศนะของพรรคประชาธิปัตย์ หรือทัศนะพวกอำมาตย์ที่ไม่เคารพประชาชน

จะเห็นได้ว่าหากทุกครั้งที่พวกเขาแพ้เลือกตั้ง พวกเขาจะบอกว่าพรรคฝ่ายตรงข้ามที่ชนะเกิดจากการซื้อเสียงแล้วนำไปสู่การให้ร้ายระบอบประชาธิปไตยทุกครั้งว่าเป็นธุรกิจการเมือง และจบลงที่รัฐประหารยึดอำนาจแล้วเริ่มต้นใหม่

การยอมรับนี้มิใช่เป็นการเสแสร้งแต่เป็นการยอมรับด้วยความจริงใจและน้อมรับผลการตัดสินใจมาศึกษาเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขการดำเนินการของพรรคและของขบวนการคนเสื้อแดง

2. ใช้ท่าทีศึกษาที่ถนอมรักกันในหมู่มิตรสหาย

เมื่อเกิดความพ่ายแพ้ก็เป็นธรรมชาติของปุถุชนที่จะเสียใจ ดังนั้น จึงเกิดภาวการณ์ทางความคิดสุดโต่ง 2 ด้าน คือ

พวกหนึ่งจะเกิดความเสียใจอย่างรุนแรงเลยเถิดไปถึงเกิดความหดหู่ใจแล้วตัดสินใจละทิ้งขบวนการจนเลิกที่จะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไป รวมถึงไปปลุกปั่นคนใกล้ชิดให้หดหู่ใจและละทิ้งแนวทางการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยด้วย

ส่วนอีกพวกหนึ่งจะเกิดความโกรธแค้นพวกเดียวกัน แล้วด่าทออย่างไม่ถนอมน้ำใจโดยขาดการศึกษาข้อมูลว่าอะไรเป็นอะไรอย่างมีเหตุผล

แต่อย่างไรก็ตามต้องถือว่า "มวลชนด่าว่าเพราะมวลชนรัก"

เมื่อรักมากห่วงมากจึงด่ามาก ส.ส.เพื่อไทยก็ต้องน้อมรับฟังก็คิดเสียว่าในเมื่อประชาธิปัตย์ด่าว่าในสภายังอดทนนั่งฟังได้ เมื่อมวลชนด่าว่าด้วยความรักก็ต้องทนฟังได้

ปกติผมไม่ชอบที่จะรับรองใคร แต่ในที่นี้ผมขอยืนยันว่าคุณสุเมธ ฤทธาคนี เป็นส.ส.ที่ดีและมีความคิดกล้าต่อสู้คนหนึ่งในพรรคเพื่อไทย ที่ได้เคยแสดงบทบาทร่วมกับคนเสื้อแดงต่อต้านการบุกยึดสถานีถ่ายทอดดาวเทียมของอำนาจเผด็จการทหารในรัฐบาลอภิสิทธิ์–สุเทพ

เพียงแต่เป็นการก้าวพลาดครั้งสำคัญต่อการประเมินมวลชนและไม่ยอมรับฟังการทัดทานของผู้นำพรรคฯที่ห้ามไม่ให้ลาออกและผลจากการตัดสินใจผิดพลาดของคุณสุเมธนี้เป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง และจะเป็นผลร้ายต่อตัวคุณสุเมธอย่างรุนแรง ซึ่งถือเป็นบทลงโทษจากการประเมินมวลชนผิดพลาด

ประชาชนเปรียบดุจดังท้องทะเลหากชาวประมงผู้ใดประเมินทะเลผิดก็อาจจะสูญเสียชีวิตในพายุใหญ่ท่ามกลางความเงียบสงบของท้องทะเล

3. นักการเมืองต้องเห็นหัว(ใจ)มวลชน

คำว่าเอาประชาชนเป็นศูนย์กลางกินความลึกซึ้งมาก ถ้าจะพูดอย่างภาษาชาวบ้านคือ "ต้องเห็นหัว(ใจ)มวลชน"

เมื่อชนะเลือกตั้งยกเขตจังหวัดปทุมธานีในการเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมาอย่าได้คิดว่า "มวลชนเป็นของเรา" ความคิดเช่นนี้เป็นความคิดที่ผิดเพราะไม่มีใครเป็นเจ้าของมวลชน มีแต่ความถูกต้องเป็นเจ้าของมวลชน มีแต่นโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อมวลชนเท่านั้นที่จะเป็นเจ้าของมวลชน

มวลชนเป็นผู้มีเหตุผล และเหตุผลของมวลชนมีภาวะผันแปรตลอดเวลา

มวลชนจึงไม่ต่างจากพระเจ้าตัวจริงที่เดินดินและใครที่อ้างว่าเป็นเจ้าของมวลชนและทำอะไรตามใจตัวเองโดยปล่อยให้มวลชนอดอยากและหลอกลวงมวลชนไปวันๆ วันหนึ่งเขาจะรู้ความจริงดังคำกล่าวข้างต้นว่ามวลชนคือพระเจ้าและไม่มีใครเป็นเจ้าของพระเจ้าได้นอกจากตัวพระเจ้าเอง

คำถามที่คุณสุเมธผู้ที่ลาออกจาก ส.ส.ไปสมัครนายกฯอบจ.แก้ไม่ตกคือ "พวกผมเลือกคุณมาแล้วคุณลาออกทำไม?"

นักการเมืองทั้งหลายต้องรู้ว่าธรรมชาติแห่งมวลชนในระบอบประชาธิปไตยคือการเลือกตั้งซ่อม ทุกครั้งโดยปกติรัฐบาลเสียงข้างมากจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบเพราะทัศนะคติของมวลชนคนเมือง(Voter) ที่มิได้ตกอยู่ใต้อิทธิพลพึ่งพิง ส.ส.และลัทธิบูชาตัวบุคคล จะมีความเห็นเป็นปกติว่า ก็รัฐบาลมีเสียงข้างมากแล้วทำไมพวกเขาจะต้องไปเพิ่มเสียงให้อีก ดังนั้น แนวโน้มของการเลือกตั้งซ่อมประชาชนมักจะเลือก ส.ส.ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลเพื่อถ่วงดุล ยิ่งเป็นการลาออกด้วยจงใจเพื่อไปสมัครนายกฯอบจ.ที่คนทั่วไปเข้าใจว่ามีผลประโยชน์การถือเงินบริหารมากกว่าจึงเป็นเรื่องที่ถูกเหตุผลในทางร้ายถมทับอย่างแก้ไม่ตก

ลักษณะตัดสินใจเอาผลประโยชน์เฉพาะหน้าเป็นตัวตั้งและหลงตัวเองว่า "ประชาชนนิยมฉัน!" เป็นภาวะทั่วไปของ ส.ส.ไทยไม่ว่าพรรคไหนเพราะกรอบความคิดของ ส.ส.ไทยมักจะมองมวลชนเป็นเพียงพรรคพวกของหัวคะแนนที่ตนสามารถควบคุมได้

เพื่อน ส.ส.เพื่อไทยอีกหลายคนขอให้เปลี่ยนทัศนะเสียเถิดอย่ามองข้ามเหตุผลของพระเจ้าผู้เดินดินเลย

เพื่อนเสื้อแดงทั้งหลายขอให้ทราบเถิดครับว่าผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยเขาห้ามแล้วและผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยที่ผมรู้มาเขาเหนื่อยกับ ส.ส.ผู้ดื้อรั้นอย่างไร้เหตุผลทางการเมือง แต่เขาพูดไม่ออกและขณะนี้ท่านจะเห็นความดื้อรั้นและภาวะสายตาสั้นของนักการเมืองผู้หลงตัวเองในการเลือกตั้งนายกฯอบจ.อีกหลายจังหวัดที่กำลังเกิดขึ้น

ด้วยเหตุนี้ การพ่ายแพ้ที่ปทุมธานีจึงเป็นเรื่องโชคดีที่แพ้ก่อนเพราะมีเหตุผลมากขึ้นที่ผู้ใหญ่ในพรรคจะต้องเร่งยกเครื่อง ระบบ Primary Vote หรือการประเมิน ส.ส.ที่จะลงเลือกตั้งครั้งต่อไปได้เร็วขึ้น และเป็นจริงมากขึ้น และนี้คือการพัฒนาประชาธิปไตยที่มีตัวชี้วัดคือ "มวลชน" ของจริงจะต้องเกิดขึ้นอย่างน้อยที่สุดเหตุการณ์ที่ปทุมฯจะเป็นประโยชน์ต่อทุกพรรคการเมืองและนักการเมืองทุกคนที่จะต้องรู้จัก "เห็นหัวประชาชน" กันบ้าง

4. ขอให้เข้าใจความเป็นจริงเรื่องน้ำท่วมน้ำขังรอบกรุงเทพฯที่ยาวนาน

การโจมตี ส.ส.ปทุมธานีของพรรคเพื่อไทยที่ปล่อยให้น้ำท่วมขังรอบกรุงเทพฯยาวนานและนำความเจ็บปวดโกรธแค้นมาสู่มวลชนนั้นเป็นข้อวิจารณ์กันอย่างมากของพี่น้องเสื้อแดงที่ต้องแยกแยะ

กล่าวคือ ส่วนหนึ่ง เกิดจากความไม่รู้โดยสุจริตใจของพี่น้องเสื้อแดง

อีกส่วนหนึ่ง เป็นคำวิจารณ์ให้ร้ายของศัตรูที่ฉวยโอกาสแอบแฝงเป็นคนเสื้อแดงทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าเหตุการณ์น้ำท่วมเกิดจากอะไร

ในที่นี้ผมไม่ได้แก้ตัวแต่ต้นเหตุเป็นเรื่องที่ "แม้ตายก็บอกไม่ได้" แต่ทุกคนต้องรับเคราะห์

ผมขอตั้งข้อสังเกตหน่อยเถิดว่า "ทำไมน้ำท่วมเอ่อล้น 2 ฝั่งเจ้าพระยาตั้งแต่นครสวรรค์ ถึง ปทุมธานี แต่ทำไมไม่เอ่อล้นท่วม 2 ฝั่งเจ้าพระยาในเขตกรุงเทพมหานคร?"

ด้วยเหตุนี้ เมื่อพระแม่คงคาไม่อาจจะผ่านเข้ากรุงเทพฯได้ท่านจึงต้องทะลักเข้าสู่ที่ดอนแม้แต่ "ดอนเมือง" ซึ่งไม่เคยมีน้ำท่วมก็ยังไม่เว้น

ความผิดปกติทางธรรมชาตินี้ถ้าไปถามหม่อมบางท่านก็น่าจะรู้ความจริง

บทสรุป

ได้เวลายกระดับความคิดครั้งใหญ่ของ ส.ส.และคนเสื้อแดงแล้ว

จงใช้วิกฤติเป็นโอกาส ใช้กรณีพ่ายแพ้ที่ปทุมธานีเป็นกรณีศึกษาภายใต้คำขวัญว่า "โชคดีที่แพ้ก่อน" เพื่อจะสืบต่อชัยชนะต่อไปและสะสมชัยชนะให้เติบใหญ่ขึ้น

(1) ความเร่งด่วนของพรรคเพื่อไทย

ฝ่ายบริหารพรรคฯต้องเร่งแก่ไขทัศนะดื้อรั้นที่ผิดพลาดของ ส.ส.พรรคฯที่เอาผลประโยชน์เฉพาะตนกล่าวแอบอ้างว่าเป็นประโยชน์ของพรรคฯและส.ส.พรรคฯที่ชอบแต่แสวงหาผลประโยชน์เฉพาะหน้าโดยกล่าวแอบอ้างว่าเป็นผลประโยชน์ระยะยาวด้วยใช้มติลงโทษ ส.ส.ผู้ไม่ฟังการตัดสินใจของกรรมการบริหาร

(2) ความเร่งด่วนของขบวนคนเสื้อแดง

ต้องเร่งยกระดับการเรียนรู้ของประชาชนคนเสื้อแดงที่มีความจริงใจต่อการต่อสู้ แต่ขาดประสบการณ์ทางการเมืองโดยขอให้ นปช. ที่มีภารกิจทางประวัติศาสตร์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ขณะนี้ปรับขบวนการการแสดงออกบนเวทีที่ต้องเน้นเนื้อหาความคิดและการเรียนรู้ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีมากขึ้น

และขอให้แกนนำ นปช.บางคนอย่าได้ผูกขาดว่าเสื้อแดงคือหัวคะแนนผู้อยู่ในโอวาทของตัวเองที่จะแสดงอะไรก็ได้บนเวที รวมถึงแสดงความคับแคบที่กีดกันแนวร่วมที่ไม่ใกล้ชิดตัวเองและการไร้วินัยที่กินเหล้าเมาก่อนขึ้นปราศรัยต่อหน้ามวลชน อันเป็นการไม่เคารพมวลชนอย่างยิ่ง เพราะการชุมนุมมวลชนแต่ละครั้งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงรอยต่อระหว่างระบอบอำมาตย์กับประชาธิปไตยที่กำลังต่อสู้ขับเคี่ยวกันอยู่ในขณะนี้

ในรายละเอียดยังมีอีกมาก ขอให้ถนอมรักกันอภัยกันและช่วยกันคิดแก้ไข ยังไม่สายเกินไปหรอกครับ

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น