PlayListนี้ เริ่มต้นด้วย "เล่าเรื่อง ตาดูดาวเท้าติดดิน" เรียงลำดับตั้งแต่ ตอนแรก ถึง ตอนปัจจุบัน ..ท้ายเพลย์ลิสท์เป็นคลิป "เมื่อศาลรัฐธรรมนูญกระทำขัดรัฐธรรมนูญ : จะทำอย่างไร?" วันพุธที่ 1 พฤษภาคม 2556 เวลา 13.00 - 16.00 น. ห้องกมลทิพย์ ชั้น 2 โรงแรมสุโกศล (สยามซิตี้เดิม) คลิปนี้..วิทยากร รศ.ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงความคิดเห็นเริ่มนาที 0:14:24
คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...
หรือคลิกที่นี่.. @ AsiaUpdate "เล่าเรื่อง ตาดูดาวเท้าติดดิน"

คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...

คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...

วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2555

98 รมว.ศธ. ให้โอวาทแก่นักเรียนโครงการ ๑ อำเภอ ๑ ทุน รุ่นที่ ๓

@ คลิปเต็ม นายกฯปูประชุม ขำกลิ้ง 16 06 2555
@ ผมเคยคิดว่า ปชป.แม้จะเป็นรัฐบาลไม่ได้ แต่ก็เป็นฝ่ายค้านที่มีคุณภาพ ดังนั้นผมจึงคิดว่า...
@ เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00... ตอนที่ 8...กลับไปทำงาน 2 job ใหม่ กลับเมืองไทยครั้งแรกหลังจากที่จากมาแล้วเกือบสิบปี เริ่มค้าขาย ชีวิตหักเหอีกครั้ง
@ "ดิฉันวินิจฉัยแล้ว ไม่มีหรอกค่ะโรคขี้ข้าทักษิณ มีแต่โรคอยากกลับมาเป็นนายกฯ โดยไม่ต้องชนะเลือกตั้งทักษิณ"
@ ภาพรวมในความคิดผม หนึ่งวันก่อนตัดสินจนถึงยกคำร้อง
@ ข้อเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเพื่อยกเลิกศาลรัฐธรรมนูญและจัดตั้งคณะตุลาการพิทักษ์ระบอบรัฐธรรมนูญ
@ นกแก้วตัวนั้น?
@ มีคนเขาบอกว่า ผมถูกหลอก
@ สามก๊กภาคพิสดาร (การเมือง)
@ แม่หมาขี้เรื้อนตัวนั้น... ใครอ่านแล้วต่อมน้ำตาไม่แตก E-mail มารับรางวัล
@ "มาร์ค" ร้องสะอึก..สะอื้น ฟ้องสื่ออ้างแดงเชียงใหม่จงใจทำร้าย ทั้งทุบ ทั้งตี และปาหินใส่รถยนต์
@ หัวเชือกวัวชน...
@ แชมป์’กินไม่ได้...
@ Free WiFi ทั่วประเทศ เปิดแล้ววันนี้ (3สิงหาคม2555)
@ คนไทยบางกลุ่มใจแทบสลาย เมื่อทักษิณบินอเมริกา...
@ Clipยกต่อยก..."แก้ว"โดนปล้น แต่"แก้ว"คือ"ฮีโร่"ของคนไทย
@ อึ๋ยส์!! ที่นั่นมันไม่ใช่ตอแหลแลนด์นะเฟ้ย...
@ โครงการแจกแท็บเล็ตให้เด็ก ป.1 ของนายกฯปู สร้างอัจฉริยะสุดคุ้ม
@ เจอของจริงแกล้งเฉไฉ เฮ้อ!! แถแบบนี้...ผมบายดีกว่า กลัวติดเชื้อ"โรคกลัวความจริง"
@ กะเทาะหัวใจ "ยิ่งลักษณ์" 1 ขวบปีกับบทบาทผู้นำประเทศ
@ ไป ๆ มา ๆ ชักจะออกอาการ "สุนัขจนตรอก"
@ หนึ่งปี รัฐบาลยิ่งลักษณ์ "ทุกข์ประชาชนหรือฝ่ายค้าน"
@ 1ปี รัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้คืนความสุขกับผมมากมายเลยครับ
@ อีกปีสองปี สถานการณ์เปลี่ยน..มึงซวยทั้งชีวิตแน่ๆ...
@ ฉันต้องย้อนกลับมาคิดถึงเรื่องนี้อีกครั้งทั้งน้ำตา ว่าคำพูดของแม่.........
@ ยืนยันทดสอบการระบายน้ำใน กทม. วันที่ 5 และ 7 กันยายน 2555
@ ไม่รีบเค้นออกมาจะเสียใจ...พรสวรรค์หรือความสามารถพิเศษของเด็กๆ
@ ข้อเท็จจริงเรื่องน้ำท่วมสุโขทัย จากคนสุโขทัยตัวจริง & มติชนสัมภาษณ์"หม่อมเต่านา"
@ ภาพ "เจ้าหน้าที่" ยืนคู่กับ "ชายชุดดำ" คอป.เห็นหรือยัง?
@ โอ้กรุงเทพเมืองฟ้าอมร สมเป็นนครมหานที...
@ อยากจะบอกคน กทม. ฝั่งตะวันออก ว่า รัฐบาลเขาเตรียมยังไง เรื่องน้ำ พร้อมภาพประกอบ

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ โหลดเก็บไว้ในcomเชิญคลิกที่นี่...

ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี ๒๓๕/๒๕๕๕ ...click...

ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี ๑๙๘/๒๕๕๕ ...click...


รมว.ศธ. ให้โอวาทแก่นักเรียนโครงการ ๑ อำเภอ ๑ ทุน รุ่นที่ ๓
รายละเอียดโครงการ... click

อาคารยิมเนเซียม ๕ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต - ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้โอวาทแก่นักเรียนโครงการ ๑ อำเภอ ๑ ทุน รุ่นที่ ๓ เมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๕ โดยมีนักเรียนที่ผ่านการสอบคัดเลือกให้ได้รับทุนตามโครงการไปศึกษาต่อต่างประเทศในเดือนกันยายนนี้รวมทั้งสิ้น ๗๐๕ คน เข้าร่วมรับฟัง แบ่งเป็นทุนรัฐบาล ๖๙๓ คน และทุนส่วนตัว ๑๒ คน ก่อนทยอยเดินทางไปเรียนต่อในต่างประเทศตั้งแต่วันที่ ๓ กันยายน ๒๕๕๕ เป็นต้นไป

รมว.ศธ. กล่าวว่า เป้าหมายของโครงการ ๑ อำเภอ ๑ ทุน คือให้การศึกษาเป็นส่วนสำคัญในการสร้างรากฐานของประเทศ ซึ่งหวังว่าลูกหลานที่เราได้ส่งไปศึกษาต่อต่างประเทศ จะได้เรียนรู้ในวิชาการที่สำคัญ ย้ำว่าที่สำคัญ ก็เพราะในระยะเวลา ๑ ปีที่ไปศึกษาต่อ นักเรียน ๑ คนจะใช้งบประมาณกว่า ๑ ล้านบาท หากไปศึกษาต่อในระยะเวลา ๔ ปี ก็ใช้งบประมาณกว่า ๔ ล้านบาทต่อคน แต่บางประเทศอาจจะต้องเรียนภาษาเพิ่มเติมซึ่งจะมากกว่า ๔ ปี ดังนั้นการเรียนวิชาที่สำคัญต่างๆ ก็เพื่อกลับมาช่วยเหลือประเทศในอนาคต

ศ.ดร.สุชาติ กล่าวว่า รัฐบาลสนับสนุนให้เกิดโครงการ ๑ อำเภอ ๑ ทุนในรุ่นที่ ๓ อย่างต่อเนื่องจากที่ก่อนหน้านั้นได้ดำเนินการไปแล้ว ๒ รุ่น เพื่อที่ให้ทุกคนกลับมาเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ ดังนั้น เราจึงต้องสร้างทุนมนุษย์ นั่นก็คือ การคัดเลือกนักเรียนที่มีความรู้ความสามารถจากทุกอำเภอโดยเน้นกระจายโอกาสไปสู่เด็กทุกคนอย่างทั่วถึง เพื่อ ให้ได้รับทุนไปศึกษาต่อซึ่งเด็กสามารถเลือกเรียนได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ

อีกทั้งโครงการ ๑ อำเภอ ๑ ทุนในรุ่นที่ ๓ นี้ได้เพิ่มทางเลือกให้ได้เรียนในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษด้วย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่ายแก่นักเรียนปีละ ๑ ล้านบาท(หนึ่งล้านบาท) เป็นระยะเวลา ๗ ปี เพราะฉะนั้นถือเป็นงบประมาณก้อนใหญ่ และทุนนี้ก็ไม่มีข้อผูกมัดใดๆ ไม่ต้องชดใช้คืน เพราะฉะนั้น นักเรียนๆจบแล้วจะเลือกกลับมาทำงานที่ในประเทศ หรือจะทำงานในต่างประเทศก็ได้ แต่รัฐบาลก็มุ่งหวังให้ทุกคนเป็นกำลังสำคัญในการที่จะร่วมกันพัฒนาประเทศ ขณะเดียวกันทางสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ก็แจ้งแล้วว่าสำหรับนักเรียนในโครงการที่จบมาก็มีโอกาสได้รับการคัดเลือกเข้ารับราชการได้โดยไม่ต้องสอบแข่งขัน

"นักเรียนทุกคนนั้นมีอิสระที่จะเลือกเรียนในสาขาที่ต้องการ เลือกเรียนได้ตามจินตนาการแต่ขอฝากให้รู้จักวางแผนและรับผิดชอบต่อสิ่งที่เลือกเรียนให้ดี เตรียมความพร้อมทั้งภาษา และสภาพจิตใจ ซึ่งนักเรียนสามารถปรึกษาหรือรับฟังประสบการณ์จากรุ่นพี่ที่เรียนจบมาก่อนหน้าก็ได้ โดยเฉพาะใครเลือกเรียนในสาขาที่ต้องใช้เวลาเรียนนานก็ต้องวางแผนให้ดี เพราะทุนมีจำนวนจำกัด แต่ก็หวังว่าทุกคนจะเลือกเรียนในวิชาทางด้านวิทยาศาสตร์ ศิลปศาสตร์ และเทคโนโลยี เพราะเป็นสาขาที่จะช่วยส่งเสริมให้ประเทศมีความก้าวหน้าในระยะยาว เพราะต่อไปในอนาคตเราไม่ได้อยู่กันเพียงแค่ในประเทศเท่านั้น แต่จะก้าวไปสู่ประชาคมอาเซียนมีอีกหลายประเทศที่จะเข้ามามีบทบาท ดังนั้นเราต้องเตรียมพร้อมไว้"

รมว.ศธ. ได้กล่าวให้ข้อคิดเห็นด้วยว่า เงินที่เราส่งไปเรียนต่อนั้น เป็นเงินภาษีอากรของประเทศ จึงขอให้เรียนจบแล้วกลับมาช่วยเหลือประเทศของเรา อยากให้นักเรียนทุนทุกคนถามตนเองว่าเราจะช่วยประเทศของเราให้เจริญขึ้นได้อย่างไร อาทิเช่น ช่วยแก้ปัญหาการโกงกิน คอรัปชั่น ความไม่ชอบธรรม ฯลฯ ต้องการให้ต่อสู้เพื่อครอบครัวและชุมชนของตน และสร้างในสิ่งที่ถูกต้อง แต่หากเรียนจบแล้วกลับมาวิ่งเต้นใช้เส้นสาย ก็จะรู้สึกเสียดายโอกาสและทรัพย์ที่เสียไปเป็นอย่างมาก จึงหวังว่านักเรียนทุนจะเลือกรับวัฒนธรรมที่ดีของต่างประเทศที่ไม่คอรัปชั่น พร้อมทั้งยืนหยัดตนเองด้วยสิ่งที่ถูกต้อง

นอกจากนี้ ควรจะต้องดูแลตนเอง มีความตั้งใจในการเรียนที่แน่วแน่ หากมีโอกาสได้ทำงานพิเศษ ก็จะได้นำเงินที่หามาได้ส่งกลับมาให้พ่อแม่ใช้ และขอให้พยายามศึกษาหาข้อมูลของประเทศและสาขาวิชาที่จะไปศึกษาต่อให้เหมาะสม ปรึกษากับครอบครัว พ่อแม่พี่น้อง เพื่อเลือกทางที่ดีที่สุด และกลับมาใช้ความรู้ที่ได้ไปศึกษามาพัฒนาประเทศชาติต่อไป




เริ่ม 1 กันยายน 2555 มี 23 กลุ่ม ดังต่อไปนี้ ที่ให้ฟรีโดยไม่ต้องเก็บ 30 บาท


"จำนวนเงินร่วมจ่าย" หมายถึง จำนวนเงินร่วมจ่ายโดยความสมัครใจ 30 บาทต่อครั้งของการรักษาพยาบาลของการป่วยในครั้งนั้น
ความหมายคือ...
ร่วมจ่ายเงินโดยความสมัครใจ 30 บาทก็ได้
หรือ ไม่สมัครใจร่วมจ่ายเงิน 30 บาทก็ได้
เข้าข่าย ข้อสุดท้าย
๒๓) อื่นๆ

จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้รับบริการบัตรทองที่พิสูจน์ได้ว่าได้รับความเสียหายจากการรักษา

นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า สำหรับกลุ่มยกเว้นร่วมจ่ายนั้น สปสช. จะมีฐานข้อมูลอยู่แล้ว หากประชาชนไปรับบริการ เมื่อมีการคีย์ข้อมูลผ่านบัตรประชาชนจะขึ้นโดยอัตโนมัติว่า เป็นกลุ่มยกเว้นหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดความสับสน หรือวุ่นวาย อย่างไรก็ตาม จะประเมินผลหลังออกมาตรการนี้ทุก 3 เดือน

นอกจากนี้ ในการประชุมยังหารือเรื่องการขยายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ตามมาตรา 41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติฯ ว่าด้วยการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้รับบริการที่พิสูจน์ได้ว่าได้รับความเสียหายจากการรักษา โดยมีมติให้ขยายดังนี้

กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพอย่างถาวร จากเดิมจ่ายเงินช่วยเหลือไม่เกิน 200,000 บาท เป็น 400,000 บาท

กรณีพิการหรือสูญเสียอวัยวะ จากเดิมจ่ายเงินช่วยเหลือไม่เกิน 120,000 บาท เป็น 240,000 บาท

กรณีบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยอย่างต่อเนื่อง จากเดิมจ่ายเงินช่วยเหลือไม่เกิน 50,000 บาท เป็น 100,000 บาท

โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 เชื่อว่ามาตรการนี้จะเป็นกลไกช่วยลดการเผชิญหน้าระหว่างผู้ป่วยและแพทย์ได้

Comment By คนชุดขาว : ...ก่อนนโยบาย 30 บาท..ผมซึ่งทำงานใน รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ พบเจอเรื่องเศร้า สังเวชใจเกี่ยวกับคนยากจนที่ไม่มีค่ารักษาพยาบาลมามากมาย..มีหน่วยงานที่คอยดูแลช่วยเหลือก็คือสังคมสงเคราะห์...

...หลายครั้งผมต้องรับหน้าที่พาญาติ+คนรู้จัก ที่ยากจนไปขอรับการพิจารณาช่วยเหลือลดหย่อน หรือยกเว้นค่ารักษาพยาบาลจาก จนท. สังคมสงเคราะห์ และช่วยเจรจาให้ด้วยเพราะก็คุ้นเคยพบเห็นกันอยู่เสมอ..บางครั้งเจอ จนท. ที่มีเมตตา กรุณา เขาก็พยายามลดหย่อน ช่วยเหลืออย่างเต็มที่..บางครั้งเจอคนที่ใจดำ ใจแข็งก็ไม่ยอมลดให้..บางครั้งถึงกับแนะนำญาติไปกู้เงินมาเสียค่ารักษาพยาบาล..ญาติผู้ป่วยหลายรายกลับออกมาพร้อมกับร้องไห้ น้ำตานองหน้า...และดูเหมือนโลกจะโหดร้าย เพราะคนที่ใจดำใจแข็ง ที่ผมรู้จักกลับได้รับการยกย่องให้เป็นข้าราชการสังคมสงเคราะห์ดีเด่น

...สมัยก่อนเครื่อง X-ray คอมพิวเตอร์เป็นวิทยาการใหม่ ราคาแพง และคิดค่าบริการครั้งละหลายพันบาท มันติดตั้งอยู่ชั้นที่ 1 ของตึก และใช้การลดหย่อนด้วยสังคมสงเคราะห์ไม่ได้..คนไข้หลายรายที่หมอต้องการให้ตรวจวินิจฉัยด้วยเครื่อง X-ray คอมพิวเตอร์แต่ไม่มีเงินเสียค่าบริการ ต้องนอนรอเพื่อให้ญาติไปหาเงินมาให้ได้ก่อน บางรายต้องไปกู้ บางรายต้องไปขายที่ ขายไร่ ขายนามา...

...หลังจากมีนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค..มันเหมือนฟ้ามาโปรด มันปลดเปลื้องความทุกข์ยากจากความเจ็บป่วยของคนได้มหาศาล..ผมถือว่าคนที่คิด ทำ ได้บุญกุศล คำแซ่ซ้องสรรเสริญจากคนยากจน คนชั้นกลางและคนรวยมากมายนัก..มันทำให้หมอที่เป็นหมอจริงๆสามารถตรวจวินิจฉัย+รักษาโรคได้อย่างรวดเร็ว ทันการ และไม่ต้องวิตกกังวล ไม่มีอุปสรรคเรื่อง "เงิน" ค่าใช้จ่าย ของผู้ป่วยเหมือนก่อน...

...งบประมาณที่เอามาใช้กับโครงการ 30 บาท มันก็คืองบประมาณที่กระทรวงสาธารณะสุขเคยได้รับแต่ดั้งเดิม จะให้เป็นเงินงบประมาณทั้งหมดตามที่กระทรวงเสนอขอมา และให้ไปบริหารจัดการเอง..มันจึงเกิดการคอรัปชั่นกินกันมโหฬาร อย่างที่เป็นข่าวมากมาย

...ผมคิด+เชื่อว่าปัญหาอุปสรรคใหญ่ที่สุดของโครงการ 30 บาท คือ การไม่ให้ความร่วมมือจาก "แพทย์" และ จนท.ที่ต่อต้านโครงการนี้..จึงทำให้ไม่สมัครใจ ไม่เต็มใจที่จะช่วยกัน ร่วมมือกันดำเนินการ+แก้ไข+นำเสนอปัญหาอุปสรรค+การเสนอแนวทางในการดำเนินการ-การแก้ไขปัญหาต่างๆ

...เพราะคน บุคลากรเหล่านี้เป็นผู้ปฎิบัติ อยู่ในสถานการณ์เหตุการณ์จริง จึงรับรู้ปัญหา อุปสรรค และรู้ว่าควรแก้ไข ปฏิบัติแบบไหนอย่างไรจึงจะดีที่สุด

...ถ้าบุคลากรเหล่านี้ โดยเฉพาะแพทย์ให้ความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจอย่างจริงจังแล้ว 30 ไปได้ดีกว่าปัจจุบันมากนัก

...ผมคิดว่าที่แพทย์+บุคลากรต่อต้าน 30 บาทเพราะ

1. ไม่ชอบพรรคเพื่อไทย ไม่ชอบทักษิณ แบ่งสี แบ่งพวก

2. โครงการ 30 บาททำให้ผู้ป่วยมาใช้บริการมากขึ้น ทำให้งานหนัก เหนื่อยมากขึ้น

3. ต้องบริหาร จัดการเรื่องเงินงบประมาณ ที่ได้รับมาต่อหัว/ปี ให้ลงตัวและอื่นๆ เป็นการเพิ่มภาระแก่ผู้บริหาร รพ.

4. ทำให้คนไข้คลินิกส่วนตัวลดลง

5. พรบ. หลักประกันสุขภาพ ทำให้แพทย์ต้องเสี่ยงกับการฟ้องร้องมากขึ้น และอาจจะต้องถูกลงโทษให้ชดใช้ค่าเสียหายจากการรักษาพยาบาลที่สอบสวน ตัดสินว่าเพราะความผิดพลาด ประมาท เลินเล่อ

6. พรบ. หลักประกันสุขภาพ ทำให้สถานพยาบาล คลินิกส่วนตัวต้องมีมาตรฐาน มีความพร้อมทุกด้าน ต้องลงทุนมากขึ้น

และ ฯลฯ

...ทั้งๆที่ พรบ. หลักประกันสุขภาพบัญญัติขึ้นก็เพื่อคุ้มครองคนเจ็บป่วยให้ได้รับการชดเชยค่าเสียหาย บาดเจ็บ ตาย พิการ ฯลฯ จากการรักษาพยาบาล และให้มีโอกาสได้เข้าถึง ได้รับการบริการด้านสุขภาพของรัฐและเอกชน อย่างปลอดภัย มีคุณภาพ ประสิทธิภาพ มีมาตรฐานตามหลักวิชาการที่ถูกต้อง..แต่มันไปมีผลกระทบกับแพทย์+บุคลากร จึงทำให้ถูกต่อต้าน..( ถ้าอยากรู้อย่างละเอียดลองไปค้นคว้า อ่าน พรบ.หลักประกันสุขภาพดูกันเองนะครับ)

Comment By easyboy : เรื่องบัตรทอง 30 บาท รักษาทุกโรค ปัจจุบันนี้ ยิ่งต่อยอด ดีเข้าไปใหญ่ครับ

เมื่อเดือนเมษายน ปี้นี้ (ก่อนสงกรานต์) เขาประกาศ การแพทย์ฉุกเฉิน 3 กองทุน (ประกันสังคม ราชการ บัตรทอง)

โดยประกาศว่า "คนไทย" ทุกคน เจ็บป่วยฉุกเฉิน เข้าได้ทุกโรงพยาบาล แล้วห้าม รพ. ถามหาบัตร หรือ เก็บค่ารักษา (รพ.เอกชนใหญ่ๆ โวยกันใหญ่ เพราะกลัวคนจะแห่เข้าไปแล้วเก็บเงินไม่ได้)

ระบบของ สปสช. จะมีข้อมูล "คนไทย" on line รพ. ตรวจสอบได้ 24 ชั่วโมง แค่กรอกเลขประจำตัว 13 หลัก (ถ้าบัตรหาย ญาติบอกชื่อนามสกุลตรง เขาก็ให้ใช้)

โรงพยาบาลแรกต้องรักษาฉุกเฉิน ทันที แล้วรีบแจ้ง รพ.ต้นสังกัดหรือ สปสช . เขาจะมารับต่อไป รพ.ต้นสังกัด หรือถ้าอยู่ไกล ตจว. เขาก็จะหา รพ.รัฐให้เอง เพื่อลดค่าใช้จ่าย ของ รพ.แรกที่รักษา

รพ.เบิกค่ารักษา ได้ตามเกณฑ์ คนไข้ จ่าย 30 บาท เท่าเทียมกัน

ถึงแม้ว่า บาง รพ. คนไข้จะเยอะจนต้องนอนเปลสนาม แต่การรักษาต้องได้มาตรฐาน รพ.รัฐ ต้องทำ HA (hospital accredit) ประกันคุณภาพ

จนมีการกล่าวกันว่า บัตรทอง รักษาดีกว่า ประกันสังคม (เพราะ ปกส. รพ.เอกชนที่เข้าร่วมบางแห่ง รักษาแย่จริงๆ)

ทักษิณคือคนที่ทำให้ คำว่า "คนไข้อนาถา" หายไปจากชีวิตคนไทย ด้วยนโยบาย 30 บาท ตายทุกโรค ที่ประชาธิปัตย์เขาว่า นี่แหละครับ

Comment By นกคูด : มันเสียหน้าจึงแค้น เพราะกลุ่มคุณหมอในกระทรวงสาธารณสุขเคยเสนอโครงการกับนายชวน หลีกภัย นายกฯในตอนนั้น แต่รัฐบาลนายชวนแม้สายตายาว แต่วิสชั่นแคบและสั้น กลัวไม่มีเงิน (หาเงินไม่เป็น) จึงปฏิเสธไป

Comment By เข้ามาดู : อย่าว่างั้นงี้เลย ไอ้โครงการนี้แหละที่สลิ่มที่โรงงานมันด่า สุดท้ายแม่มันเข้าโรงพยาบาล ถ้าไม่มีบัตรทองป่านนี้มันคงต้องขายรถ ขายที่ ทุกวันนี้มันเงียบไม่ยอมพูดอีก หลับตาปริบๆสำนึกบุญคุณหรือละอายไม่รู้...ด่าเค้าไว้เยอะ